6 ก.ค. 2559

จอดรถยนต์ราชการไว้หน้าบ้านพัก ... หาย !!


         
 คดีปกครองที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังฉบับนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ของทางราชการไปใช้ในราชการและรถยนต์สูญหายไปขณะจอดเก็บไว้บนถนนบริเวณหน้าบ้านพักของตนเองในช่วงเวลากลางคืน หน่วยงานต้นสังกัดจึงมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย

           ในเรื่องการเก็บรักษารถของทางราชการมีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 16 วรรคสาม กำหนดไว้ว่า กรณีที่จะนำรถยนต์ของทางราชการไปเก็บรักษาที่อื่นเป็นการชั่วคราวหรือเป็นครั้งคราวได้ ส่วนราชการต้องไม่มีสถานที่เก็บรักษาที่ปลอดภัยเพียงพอหรือต้องมีราชการจำเป็นและเร่งด่วนหรือปฏิบัติราชการลับเท่านั้น  

             คดีนี้ ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นผู้นำรถไปเก็บที่บ้านพักดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดตำแหน่งโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ได้อ้างเหตุผลที่นำรถไปจอดที่บ้านว่า ภารกิจต่างๆ ของผังเมืองจังหวัดเป็นภารกิจที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และสำนักงานผังเมืองจังหวัดตั้งอยู่ ณ อาคารศาลากลางจังหวัด ไม่มีสถานที่เก็บรักษารถเป็นการเฉพาะ ไม่ปลอดภัยเพียงพอ อีกทั้งได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้เป็นผู้ใช้รถยนต์ส่วนกลางในการปฏิบัติราชการและเก็บรักษาไว้ที่บ้านพักของตน

           และโดยปกติผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้นจะจอดรถไว้บนถนนเช่นเดียวกัน จึงเป็นการดูแลรักษารถยนต์เยี่ยงวิญญูชนจะพึงรักษาทรัพย์สินของตนแล้ว

           หลังจากได้รับคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายก็ได้อุทธรณ์คำสั่ง แต่รองปลัดกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งยกอุทธรณ์ จึงนำคดีมาฟ้องศาลปกครองขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหาย

             ปัญหา คือการขออนุญาตและการอนุญาตนำรถยนต์ส่วนกลาง ไปเก็บรักษาที่บ้านพักชอบด้วยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 หรือไม่ ?

              ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า เมื่อบริเวณที่จอดรถยนต์ส่วนกลางของสำนักงานผังเมืองจังหวัดมีความปลอดภัยเพียงพอและมีระยะทางห่าง จากบ้านพักเพียง 2.3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที ประกอบกับเวลาประมาณ 17 นาฬิกา ก่อนคืนที่รถยนต์จะสูญหาย ผู้ฟ้องคดีได้ขับรถยนต์ออกไปสำรวจพื้นที่เขตผังเมืองบริเวณชุมชนและบริเวณใกล้เคียงในเขตเทศบาล โดยไม่มีความจำเป็นและเร่งด่วนหรือเป็นการปฏิบัติราชการลับ และยังไม่มีภารกิจใดที่เกี่ยวกับการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนที่เป็ นกรณีเกิดเหตุเร่งด่วนหรือในเวลาค่ำคืนหรือมีการให้บริการแก่ประชาชนนอกเวลาราชการการขออนุญาตและการอนุญาตนำรถส่วนกลางพิพาทไปเก็บรักษาที่บ้านพัก จึงเป็นการไม่ชอบด้วยข้อ 16 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523

             ถ้าเช่นนั้น ผู้ฟ้องคดีต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ทางราชการหรือไม่ ? 

             ประเด็นนี้ ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า แม้ว่าการอนุญาตจะไม่ชอบด้วยระเบียบ แต่ตราบใดที่ไม่มีการยกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งอนุญาต คำสั่งก็ยังมีผลใช้บังคับ ซึ่งผู้ฟ้องคดีต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต คือ นำรถยนต์ไปจอดเก็บรักษาไว้ในบริเวณบ้านที่ได้รับอนุญาตโดยต้องจัดให้มีที่เก็บรักษาอย่างปลอดภัยด้วย หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องนำรถยนต์ไปจอดที่ที่จอดรถยนต์ส่วนกลางของสำนักงานผังเมืองจังหวัด ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า เมื่อผู้ฟ้องคดีเป็นเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ในการดูแลรักษารถยนต์ ซึ่งจะต้องดูแลรักษารถยนต์เหมือนวิญญูชนทั่วไปพึงต้องใช้ความระมัดระวังในการดูแลรักษาทรัพย์สินของตน แต่กลับนำรถยนต์ไปจอดเก็บไว้บนถนนหน้าบ้านพฤติการณ์จึงถือเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการเก็บรักษารถยนต์และเมื่อรถยนต์สูญหายจึงเป็นการกระทำละเมิดด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงที่ผู้ฟ้องคดีต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายต่อหน่วยงานของรัฐ

               แต่คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า การที่หน่วยงานอนุญาตให้นำรถยนต์ไปจัดเก็บนอกสถานที่โดยไม่มีการตรวจสอบก่อนว่าสถานที่ที่ขออนุญาตนำรถยนต์ไปเก็บรักษามีความปลอดภัยหรือไม่ การกระทำละเมิดจึงเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐด้วย จึงต้องหักส่วนแห่งความรับผิดออกด้วย ดังนั้น คดีนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ที่ดีทั้งสำหรับหน่วยงานของรัฐ ผู้มีอำนาจอนุญาตให้นำรถยนต์ไปเก็บนอกสถานที่ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ขออนุญาตใช้รถยนต์และนำรถยนต์ไปเก็บรักษาไว้ที่อื่นที่ไม่ใช่สถานที่ที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ พ.ศ. 2523 กำหนดไว้ จะได้มีความระมัดระวังในการใช้อำนาจและเก็บรักษารถยนต์ไว้ในที่ปลอดภัยที่สุด...ครับ!


           เครดิต : นายปกครอง , หนังสือพิมพ์บ้านเมือง คอลัมน์คดีปกครอง ฉบับวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ... จ่ายตามฐานะไม่ได้ !

คดีปกครองที่นำมาเล่าสู่กันฟังในฉบับนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยพิบัติจากฝนตกหนักและลมพัดแรงทำให้หลังคาบ้านเ...