คดีปกครองที่นำมาเล่าสู่กันฟังใ
ข้อเท็จจริงในคดีนี้ เกิดขึ้นจากการเกิดภัยพิบัติฝนต กหนัก ลมกรรโชกแรง เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม2550 ทำให้กระเบื้องหลังคาบ้านของผู้ ฟ้องคดีและราษฎรหลายหลังแตกเสีย หาย ผู้ใหญ่บ้านได้รายงานความเสียหา ยต่อผู้ถูกฟ้องคดี (องค์การบริหารส่วนตำบล) เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ฟ้องคดีกระ เบื้องมุงหลังคาเสียหาย 80 แผ่น จากนั้นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็ จจริงที่ผู้ถูกฟ้องคดีแต่งตั้งก ็ได้ส
ำรวจความเสียหาย ซึ่งผลการสำรวจความเสียหาย ไม่มีความแตกต่างกัน
ยกเว้นเพียงบางรายการ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ฟ้
องคดีมีกระเบื้องมุงหลังคาเสียห าย 40 แผ่น และรายงานความเสียหายทั้งหมดคิด เป็นเงิน 74,050 บาท แต่ผู้ถูกฟ้องคดีอนุมัติให้จัดซ ื้อวัสดุก่อสร้างเป็นเงิน 98,060 บาท ต่อมาผู้ฟ้องคดีได้แจ้งขอความช่ วยเหลือและได้รับอนุญาตจากนายก อบต. เพื่อซื้อกระเบื้องมาซ่อมแซมหลั งคา
บ้านก่อน จำนวน 80 แผ่น เป็นเงิน 6,990 บาท แต่เมื่อนำใบเสร็จไปขอรับเงิน
เจ้าหน้าที่กลับให้เงินเพียง 2,000 บาท โดยอ้างว่าผู้ฟ้องคดีมีฐานะที่ด ีอยู่แล้วเพราะเป็นข้าราชการและ ทำการค้าขาย มีบ้านพักอาศัยหลังใหญ่ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่จำต้องได้รับการช่วยเหลือทั้ งหมด การจัดซื้อกระเบื้องจำนวน 40 แผ่น (โดยคิดราคากระเบื้อง แผ่นละ 50 บาท ) ให้ผู้ฟ้องคดีจึงมีความเหมาะสมแ ล้ว ผู้ฟ้องคดีจึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล ปกครองขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิ พากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีจ่ายเงินจ ำนวนที่เหลือ
การที่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่จ่ายเงิน ช่วยเหลือค่ากระเบื้องให้ครบจำน วนตามที่ผู้ฟ้องคดีได้รับความเส ียหายเป็นธรรมแก่ผู้ฟ้องคดีหรือ ไม่ ?
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า องค์การบริหารส่วนตำบล (ผู้ถูกฟ้องคดี) มีหน้าที่ต้องป้องกันและบรรเทาส าธารณภัยในเขตพื้นที่ตน ตามมาตรา 67 (4) แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค ์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 การที่ผู้ถูกฟ้ องคดีอนุมัติงบประมาณเพื่อจัดซื ้อวัสดุก่อสร้างสำหรับซ่อมแซมบ้ านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ถือเป็นกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีได้ เลือกว่าจะให้ความช่วยเหลือโดยก ารจัดหาวัสดุสิ่งของให้แก่ผู้ปร ะสบภัยพิบัติ มิใช่การให้ความช่วยเหลือเป็นเง ิน ผู้ฟ้องคดีจึงต้องได้รับความช่ว ยเหลือเป็นกระเบื้องมุงหลังคาตา มรายงานความเสียหายเช่นกัน แต่การที่ผู้ฟ้องคดีได้ขอความช่ วยเหลือและได้รับอนุมัติให้ซื้อ กระเบื้องมาซ่อมแซมได้และนำใบเส ร็จมาขอรับเงินโดยเจ้าหน้าที่ได ้มอบเงินให้ผู้ฟ้องคดี 2,000 บาท และไม่ได้โต้แย้ง แสดงว่าผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้ผูกพ ันตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการให้คว ามช่วยเหลือเพื่อบรรเทาสาธารณภั ยว่าจะต้องให้ความช่วยเหลือเป็น วัสดุสิ่งของเท่านั้น และเมื่อความเสียหายเกิดจากภัยธ รรมชาติที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีหน้าท ี่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภ ัย และมีระเบียบที่เกี่ยวข้องในการ ให้ความช่วยเหลือ จึงผูกพันผู้ถูกฟ้องคดีให้ต้องป ฏิบัติต่อผู้ประสบภัยด้วยความเป ็นธรรม และอยู่บนหลักความเสมอภาค โดยคำนึงถึงฐานะการคลังของผู้ถู กฟ้องคดีประกอบกัน ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากบัญชีความเสียหา ยตามที่ผู้ใหญ่บ้านรายงานและควา มเสียหายจากการรายงานของคณะกรรม การตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่แตกต่า งกันมาก และไม่แน่ชัดว่าคณะกรรมการตรวจส อบข้อเท็จจริงได้สำรวจความเสียห ายถูกต้อง ทั้งผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้โต้แย้ง รายงานของผู้ใหญ่บ้าน จึงต้องรับฟังว่า กระเบื้องหลังคาของผู้ฟ้องคดีได ้รับ
ความเสียหายจริง 80 แผ่น แต่การที่ผู้ถูกฟ้ องคดีอ้างว่าผู้ฟ้
องคดีมีฐานะดี ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ต้องช่วยเหลือทั้งหมด
ทั้งที่ผู้ประสบภัยรายอื่นได้รั บการช่วยเหลือเต็มจำนวนความเสีย หายตามที่รายงาน และผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้มีปัญหาเ รื่องงบประมาณ เนื่องจากได้มีการอนุมัติให้ซื้ อวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความเสี ยหาย เป็นจำนวนเงินที่มากกว่าที่คณะก รรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ราย งานความเสียหาย โดยไม่ปรากฏว่าได้นำกระเบื้องส่ วนที่เกินนั้นไปใช้ประโยชน์อันใ ด จึงเป็นการปฏิบัติต่อผู้ฟ้องคดี แตกต่างจากผู้ประสบภัยพิบัติราย อื่น จึงไม่เป็นธรรมและไม่ชอบด้วยกฎห มาย ผู้ถูกฟ้องคดีต้องให้ความช่วยเห ลือแก่ผู้ฟ้องคดีตามที่เสียหายจริง คือ กระเบื้องมุงหลังคาเสียหายจำนวน 80 แผ่น (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 394/2556)
คดีนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ที่ดีสำหร ับฝ่ายปกครองซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจตาม กฎหมายว่า เมื่อไม่มีกฎหมายอนุญาตให้ใช้อำ นาจในลักษณะที่เป็นการจำกัดการใ ช้สิทธิของประชาชนหรือให้อำนาจใ นทางที่จะเลือกปฏิบัติอย่างหนึ่ งอย่างใดต่อบุคคลให้แตกต่างกันไ ด้ ฝ่ายปกครองก็ไม่อาจดำเนินการใดๆ หรือใช้อำนาจในทางที่ไม่เป็นธรร มและขัดต่อหลักความเสมอภาค ครับ !
เครดิต : นายปกครอง,หนังสือพิมพ์บ้านเมือ ง คอลัมน์คดีปกครอง ฉบับวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2556
การที่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่จ่ายเงิน
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า องค์การบริหารส่วนตำบล (ผู้ถูกฟ้องคดี) มีหน้าที่ต้องป้องกันและบรรเทาส
คดีนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ที่ดีสำหร
เครดิต : นายปกครอง,หนังสือพิมพ์บ้านเมือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น