เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่าน
ประเด็นนี้น่าสนใจทีเดียวครับ.. . และได้เคยเกิดกรณีทำนองนี้ในการ ฟ้องคดีต่อศาลปกครองมาแล้ว โดยในการฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครอง อัน เป็นคดีปกครองตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา คดีปกครอง พ.ศ.2542 นั้น มาตรา 49 แห่ง พ.ร.บ.เดียวกัน ได้กำหนดให้ยื่นฟ้องภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเห ตุแห่งการฟ้องคดี...
ส่วนการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายหรือขอให้ชดใช้ค่าสิน ไหมทดแทนจากการกระทำละเมิดอันเก ิดจากคำสั่ง ซึ่ง
เป็นคดีปกครองตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (3) กฎหมายฉบับเดียวกัน ในมาตรา 51
ได้กำหนดให้ยื่นฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเห ตุแห่งการฟ้องคดี แต่ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่มีเหตุแห่งการฟ้องค ดี (แต่หากเจ้าหน้าที่ผู้ออกคำสั่ง มิได้ ระบุวิธีการยื่นคำฟ้องและระยะเว ลาสำหรับยื่นคำฟ้องให้ผู้รับคำส ั่งทราบ ผลทางกฎหมายจะทำให้ระยะเวลาสำหร ับยื่นคำฟ้องซึ่งมีกำหนดน้อยกว่ าหนึ่งปีขยาย ไปเป็นหนึ่งปี ทั้งนี้ตามมาตรา 50)
ฉะนั้น กรณีการฟ้องคดีเพื่อขอให้ศาลเพิ กถอนคำสั่ง ผู้ฟ้องคดีจะต้องยื่นฟ้องภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเห ตุแห่งการฟ้องคดี ซึ่งก็คือวันที่ได้รับแจ้งคำสั่ ง หรือวันที่ได้รับแจ้งผลการพิจาร ณาอุทธรณ์หรือร้องทุกข์ในกรณีที ่มีกฎหมาย กำหนดให้ต้องดำเนินการอุทธรณ์หร ือร้องทุกข์ก่อนฟ้องคดี แต่หากผู้มีหน้าที่ไม่ดำเนินกา รพิจารณาเรื่องอุทธรณ์หรือร้องท ุกข์ภายใน เวลาที่กฎหมายกำหนด ผู้เดือดร้อนเสียหายจะต้องนำคดี มาฟ้องต่อศาลภายใน 90 วัน นับแต่วันที่พ้นกำหนดระยะเวลากา รพิจารณาเรื่องอุทธรณ์หรือร้องท ุกข์ตามที่ กฎหมายกำหนดไว้ดังกล่าว
การนำคดีมาฟ้องต่อศาลเมื่อพ้นกำ หนดระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ว ย่อมส่งผลให้แม้คำสั่งที่พิพาทจ ะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลก็ไม่อาจรับคำฟ้องและไม่อาจส ั่งให้เพิกถอนได้ โดยคำสั่งดังกล่าวจะยังมีผลต่อไ ปตราบเท่าที่ไม่มีการเพิกถอนหรื อสิ้นผลลงโดย เงื่อนเวลาหรือโดยเหตุอื่น ทั้งนี้ตามมาตรา 42 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกคร อง พ.ศ.2539 จึงทำให้เกิดประเด็นสงสัยดังเช่ นเพื่อนบ้านของผมว่า หากพ้นระยะเวลาการฟ้องเพิกถอนคำ สั่ง แต่ยังไม่พ้นระยะเวลาการฟ้องเรี ยกค่าเสียหาย จะฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้พิจารณา เฉพาะกรณีละเมิดอันเกิดจากคำสั่ งได้หรือไม่?
ลองมาดูคดีเทียบเคียงที่ผมนำมาฝ ากต่อไปนี้ ซึ่งน่าจะตอบข้อสงสัยดังกล่าวได ้เป็นอย่างดีครับ...
คดีแรก ผู้ฟ้องคดีเป็นนายแพทย์ ได้เข้าร่วมโครงการโรงพยาบาลตำบ ลความฝัน ซึ่งแพทย์ที่ปฏิบัติงานตามโครงก ารดังกล่าวจะได้รับค่าตอบแทนพิเ ศษนอกเหนือ จากเงินเดือน ต่อมาได้มีการจัดประกวดโครงการน วัตกรรมหลักประกันสุขภาพทั่วหน้ าดีเด่น ผลการตัดสินได้แจ้งว่านวัตกรรมด ้านบริการของโรงพยาบาลตำบลชวนชื ่นที่ผู้ฟ้อง คดีปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้รับราง วัลชนะเลิศ แต่เมื่อถึงกำหนดวันไปรับรางวัล กลับเป็นสาธารณสุขอำเภอที่ได้รั บรางวัลดัง กล่าวแทน เป็นเหตุให้เกิดความสงสัยแก่ประ ชาชนและบุคลากรของโรงพยาบาลตำบล ชวนชื่น จึงได้มีการมอบหมายให้ผู้ฟ้องคด ีไปสอบถามเหตุผลจากผู้อำนวยการโ รงพยาบาล ประจำอำเภอ จนเกิดความขัดแย้งกันขึ้น ต่อมาผู้อำนวยการฯ ได้มีคำสั่งยกเลิกเงินค่าตอบแทน ต่างๆ ของผู้ฟ้องคดี แล้วสั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับมาปฏิ บัติงานในโรงพยาบาลประจำอำเภอ โดยไม่ให้โอกาสผู้ฟ้องคดีชี้แจง หรือแสดงพยานหลักฐานใดๆ ผู้ฟ้องคดีได้ร้องทุกข์ต่อสำนัก งานสาธารณสุขจังหวัดและผู้ว่ารา ชการจังหวัด เพื่อขอความเป็นธรรม แต่ก็ไม่มีการพิจารณาเรื่องร้อง ทุกข์ของ ผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดีจึงยื่นฟ้องผู้อำนวยก ารโรงพยาบาลและพวกต่อศาลปกครองเ พื่อขอให้ เพิกถอนคำสั่งที่ยกเลิกเงินค่าต อบแทนดังกล่าว รวมทั้งขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ เงินค่าตอบแทนพิเศษแก่ผู้ฟ้องคด ี รวมเป็นการฟ้อง 2 ข้อหาพร้อมกัน
คดีนี้ศาลปกครองชั้นต้นเห็นว่าห ากฟ้องเพิกถอนคำสั่งไม่ได้เพราะ เหตุ พ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้วก็จะไ ม่สามารถฟ้องกรณีละเมิดอันเกิดจ ากคำสั่งดัง กล่าวได้ด้วย แม้ข้อหาที่สองจะยังอยู่ในระยะเ วลาการฟ้องคดีก็ตาม แต่ศาลปกครองสูงสุดได้เห็นต่างโ ดยวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานว่า แม้ ว่าคำสั่งดังกล่าวจะยังมีผลบังค ับต่อไปเนื่องจากผู้ฟ้องคดีได้ย ื่นฟ้องเพิก ถอนเมื่อพ้นระยะเวลาตามกฎหมาย กล่าวคือไม่ได้นำคดีมาฟ้องภายใน 90 วัน นับแต่วันที่พ้นกำหนดระยะเวลากา รพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ของผู้ม ีหน้าที่ตาม กฎหมาย ซึ่งไม่ได้หมายความว่า คำสั่งนั้นจะกลายเป็นคำสั่งที่ช อบด้วยกฎหมาย และศาลไม่อาจตรวจสอบความชอบด้วย กฎหมายได้ หากแต่ศาลยังคงมีอำนาจตรวจสอบคว ามชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งดังกล่ าวได้ เพียงแต่ไม่อาจเพิกถอนได้
ฉะนั้น การที่ผู้ฟ้องคดีฟ้องขอให้เพิกถ อนคำสั่งมาพร้อมกับฟ้องเรียกร้อ งให้ผู้ถูก ฟ้องคดีชดใช้เงินค่าตอบแทนพิเศษ ด้วย ซึ่งในข้อหาที่หนึ่ง ศาลไม่อาจรับคำฟ้องไว้พิจารณาได ้เพราะพ้นระยะเวลาการฟ้องคดีแล้ ว แต่ศาลยังสามารถที่จะรับคำฟ้องใ นข้อหาที่สอง คือการฟ้องขอให้ชดใช้เงินค่าตอบ แทนพิเศษซึ่งยังอยู่ในระยะเวลาภ ายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเห ตุแห่งการฟ้องคดีได้ และศาลย่อมมีอำนาจที่จะตรวจสอบค วามชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งดังกล ่าว ทั้งนี้เพราะการจะพิจารณากำหนดใ ห้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าตอบแทนใ นประเด็น ละเมิดอันเกิดจากคำสั่งได้ จำต้องพิจารณาให้ได้ความก่อนว่า คำสั่งที่พิพาทเป็นคำสั่งที่ชอบ ด้วยกฎหมาย หรือไม่ ศาลปกครองสูงสุดจึงกลับคำสั่งขอ งศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับข้อ หาที่สองไว้ พิจารณาตามรูปคดีต่อไป(คำสั่งศา ลปกครองสูงสุดที่ 849/2549)
คดีต่อมาซึ่งมีลักษณะทำนองเดียวกับคดีแร ก... ผู้ฟ้องคดีเป็นเจ้าของร่วมในที่ ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานประกอ บการกิจการ โรงแรมรวมดาว โดยผู้ฟ้องคดีอ้างว่าตนมิได้รู้ เห็นหรือยินยอมให้ดำเนินกิจการด ังกล่าว การออกใบอนุญาตให้เปิดกิจการโรง แรมและใบอนุญาตก่อสร้างอาคารในก ิจการโรงแรม ของนายกองค์การบริหารส่วนตำบล จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหม าย ขอให้ศาลเพิกถอนพร้อมทั้งเรียกร ้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย กรณีนี้ศาลท่านพิเคราะห์ว่า เมื่อผู้ฟ้องคดีนำคดีมาฟ้องเมื่ อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเห ตุแห่งการฟ้องคดี ศาลจึงไม่อาจรับข้อหาแรกคือการฟ ้องขอให้เพิกถอนใบอนุญาตไว้พิจา รณาได้ ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากก ารออกใบอนุญาตดังกล่าว ซึ่งถือเป็นคดีละเมิดจากคำสั่ง ที่ต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเห ตุแห่งการฟ้องคดีนั้น เมื่อฟังได้ว่าข้อหานี้ยังอยู่ใ นระยะเวลาการฟ้องคดี ศาลปกครองจึงมีอำนาจรับข้อหาที่ สองไว้พิจารณา (คำสั่งศาลปกครอง สูงสุดที่ 192/2552)
มาถึงคดีสุดท้าย... ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นข้าราชการ ครูได้ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนตั ้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเนื่ องจากถูกร้อง เรียนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยเลขาธิการการประถมศึกษาแห่งช าติได้พิจารณาการดำเนินการทางวิ นัยตามรายงาน ของผู้อำนวยการการประถมศึกษาจัง หวัด เห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ฟ้องคดีเ ป็นการซ้ำเติมฉ้อโกงราษฎรโดยอาศ ัยความไว้วาง ใจที่มีต่อตนซึ่งเป็นครู จึงได้มีคำสั่งเพิ่มโทษผู้ฟ้องค ดีจากภาคทัณฑ์เป็นลดขั้นเงินเดื อน 1 ขั้น ผู้ฟ้องคดีได้อุทธรณ์ต่อประธาน อ.ก.ค.สำนักงานคณะกรรมการการประ ถมศึกษาแห่งชาติ ซึ่งผลพิจารณาได้ลดโทษเป็นตัดเง ินเดือนร้อยละ 5 เป็นเวลา 2 เดือน ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการพิจารณาดำเ นินการลงโทษทางวินัยดังกล่าว มีการฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด ไม่ได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงให ้ครบถ้วน จึงได้ยื่นฟ้องเพิกถอนคำสั่งดัง กล่าวต่อศาลปกครองชั้นต้น ซึ่งศาลปกครองชั้นต้นได้พิจารณา แล้วมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ งลงโทษทาง วินัยผู้ฟ้องคดี และคดีได้ถึงที่สุดเพราะผู้ถูกฟ ้องคดีไม่อุทธรณ์
ต่อมาผู้ฟ้องคดีได้มายื่นฟ้องสำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื ้นฐาน เพื่อขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจ ากเหตุคำสั่งที่ไม่ชอบดังกล่าว โดยศาลปกครองชั้นต้นและศาลปกครอ งสูงสุดเห็นพ้องกันว่า ผู้ฟ้องคดีได้นำคดีมาฟ้องเกิน 1 ปี นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเห ตุแห่งการฟ้องคดีแล้ว ซึ่งคือวันเดียวกับวันที่รู้หรื อควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดีกร ณีฟ้องเพิก ถอนคำสั่งอันเป็นต้นเหตุที่พิพา ท ตามที่ผู้ฟ้องคดีต่อสู้ว่าวันที ่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้ องคดีกรณี ละเมิดคือวันที่ศาลปกครองชั้นต้ นมีคำพิพากษาว่าคำสั่งไม่ชอบด้ว ยกฎหมาย เนื่องจากก่อนวันที่ศาลตัดสินผู ้ฟ้องคดียังไม่ทราบว่าคำสั่งไม่ ชอบด้วย กฎหมาย การฟ้องคดีของผู้ฟ้องคดีจึงยังอ ยู่ในกำหนดเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ศาลปกครองชั้นต้นมี คำพิพากษานั้น ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ผู้ฟ้องคดีรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้อ งคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเม ิดซึ่งกระทบ ต่อสิทธิของผู้ฟ้องคดีพร้อมกันก ับเหตุแห่งการเพิกถอนคำสั่ง แต่ในการฟ้องตอนแรกผู้ฟ้องคดีไม ่ได้เรียกค่าเสียหายมาด้วย วันที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพา กษาและผู้ถูกฟ้องคดีมิได้อุทธรณ ์นั้นหาใช่ วันเริ่มต้นของเหตุแห่งการฟ้องค ดีแต่อย่างใด ศาลปกครองสูงสุดจึงยืนตามศาลปกค รองชั้นต้นไม่รับคำฟ้องไว้พิจาร ณาเพราะเหตุ พ้นระยะเวลาการฟ้องคดี (คำสั่งศ าลปกครองสูงสุดที่ 703/2551)
จึงได้ข้อสรุปที่ครองธรรมตอบเพื ่อนบ้านและนำมาเล่าให้ท่านผู้อ่ านฟังว่า... การฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีละเมิดอ ันเกิดจากคำสั่งที่ไม่ชอบนั้น หากพ้นระยะเวลาการฟ้องเพิกถอนคำ สั่งแล้ว ผู้เดือดร้อนเสียหายยังสามารถนำ คดีมาฟ้องต่อศาลปกครองในข้อหาละ เมิดได้ แต่จะต้องอยู่ในระยะเวลาการฟ้อง คดีละเมิดคือภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเห ตุแห่งการฟ้องคดีซึ่งถือเอาวันเ ดียวกันกับ วันที่รู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องเพิ กถอนคำสั่ง ซึ่งการฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณี ละเมิดนี้ผู้ฟ้องคดีจะต้องเสียค ่าธรรมเนียม ศาลในอัตราตามที่กฎหมายกำหนดโดย จะได้รับคืนตามส่วนของการชนะคดี ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเรียกค่า เสียหายเกินจริงหรือการแกล้งฟ้อ งนั่นเองครับ
ท้ายนี้... ครองธรรมขอส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ไทย พร้อมกับขอให้สถานการณ์บ้านเมือ งต่างๆ คลี่คลายไปในทิศทางที่ดี โดยเร็ววันนะครับ...
เครดิต : ครองธรรม ธรรมรัฐ , ผู้จัดการ Online ,21 เมษายน 2557
ส่วนการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายหรือขอให้ชดใช้ค่าสิน
ฉะนั้น กรณีการฟ้องคดีเพื่อขอให้ศาลเพิ
การนำคดีมาฟ้องต่อศาลเมื่อพ้นกำ
ลองมาดูคดีเทียบเคียงที่ผมนำมาฝ
คดีแรก ผู้ฟ้องคดีเป็นนายแพทย์ ได้เข้าร่วมโครงการโรงพยาบาลตำบ
คดีนี้ศาลปกครองชั้นต้นเห็นว่าห
ฉะนั้น การที่ผู้ฟ้องคดีฟ้องขอให้เพิกถ
คดีต่อมาซึ่งมีลักษณะทำนองเดียวกับคดีแร
มาถึงคดีสุดท้าย... ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นข้าราชการ ครูได้ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนตั
ต่อมาผู้ฟ้องคดีได้มายื่นฟ้องสำ
จึงได้ข้อสรุปที่ครองธรรมตอบเพื
ท้ายนี้... ครองธรรมขอส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ไทย พร้อมกับขอให้สถานการณ์บ้านเมือ
เครดิต : ครองธรรม ธรรมรัฐ , ผู้จัดการ Online ,21 เมษายน 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น