คำแนะนำของประธานศาลฎีกา เกี่ยวกับวิธีการรอการกำหนดโทษ ที่ลงนามอกอประกาศ โดย ไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา
คำแนะนำ ระบุว่า โดยที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ กำหนดให้ศาลมีอำนาจใช้วิธีการรอ การกำหนด โทษกับผู้ซึ่งถูกพิพากษาว่ามีคว ามผิด ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดยังไม่ สมควร
ต้องรับโทษอันเนื่องมาจาก สภาพของผู้กระทำความผิดนั้นเอง
ลักษณะและผลของการกระทำ ตลอดจนสภาวะแวดล้อมอันเป็น
สาเหตุหรือเกี่ยวเนื่องกับผู้กร ะทำความผิดหรือการกระทำความผิดน ั้น เพื่อให้ผู้กระทำความผิดมีโอกาส กลับตัว โดยไม่มีประวัติว่าเคยต้องโทษจำ คุก ดังนั้น เพื่อให้การใช้วิธีการดังกล่าวเ ป็นไปในแนวทางเดียวกัน และเกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญ ญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระธรรมนูญศา ลยุติธรรม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑ ประธานศาลฎีกา จึงออกคำแนะนำ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ภายใต้บังคับมาตรา ๕๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ในคดีความผิดซึ่งตามบัญชี มาตรฐานการลงโทษของศาลกำหนดให้ร อการลงโทษได้ หรือความผิดอื่นใดซึ่งศาลเห็นว่ าจำเลยยังไม่สมควร ถูกจำคุก หากพฤติการณ์แห่งคดีปรากฏว่า
(๑) การกระทำความผิดของจำเลยมีสาเหต ุมาจากความยากจนหรือกระทำไปโดยร ู้เท่าไม่ถึงการณ์และความเสียหา ยที่เกิดขึ้นมีเพียงเล็กน้อย
(๒) จำเลยได้สำนึกถึงความผิดและพยาย ามบรรเทาผลร้ายที่เกิดขึ้น และในกรณีที่มีผู้เสียหายบุคคลด ังกล่าวไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีแ ก่จำเลย
(๓) ผู้เสียหายกับจำเลยมีความสัมพัน ธ์กันในทางหนึ่งทางใด เช่น เป็นญาติ เพื่อนบ้านหรือผู้ร่วมงาน และความผิดที่เกิดขึ้นเป็นความผ ิดไม่ร้ายแรงซึ่งทั้งสองฝ่ายต่า งมีความเข้า ใจที่ดีต่อกันแล้ว
(๔) เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมา ท และผู้เสียหายเป็นบุคคลในครอบคร ัวหรือญาติของจำเลยหรือตัวจำเลย ได้รับผล ร้ายอย่างรุนแรงจากการกระทำความ ผิดนั้น หรือ
(๕) พฤติการณ์อื่นในทำนองเดียวกับ (๑) ถึง (๔) ซึ่งศาลเห็นว่าจำเลยไม่ควรมีประ วัติต้องโทษติดตัว
ศาลพึงพิจารณาใช้วิธีการรอการกำ หนดโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตั วภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควรก ำหนด
ข้อ ๒ นอกเหนือจากเงื่อนไขเพื่อคุมควา มประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ วรรคสอง (๑) (๒) (๓) (๔) แล้ว ศาลอาจกำหนดเงื่อนไขอื่นตามมาตร า ๕๖ วรรคสอง (๕) ดังต่อไปนี้ ให้จำเลยปฏิบัติเพิ่มเติมก็ได้
(๑) ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เส ียหายหรือเยียวยาความเสียหายทาง ร่างกายหรือ จิตใจให้แก่ผู้เสียหายโดยวิธีอื ่นตามที่จำเลยและผู้เสียหายตกลง กัน
(๒) ให้เข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ หรือบุคคลซึ่งทำหน้าที่ให้คำปรึ กษาเพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านจิตใจ หรือทางสังคม ตามที่ศาลกำหนด
(๓) ให้ปฏิบัติศาสนกิจตามที่ศาลเห็น สมควรและจำเลยยินยอม
(๔) ให้บริจาคเงินเพื่อการกุศลหรือส าธารณประโยชน์ ตามที่จำเลยยินยอม
(๕) ห้ามออกนอกสถานที่อยู่อาศัยในระ หว่างเวลาที่ศาลกำหนด
(๖) ห้ามเข้าไปในสถานที่ที่ศาลกำหนด
(๗) ให้ทำทัณฑ์บนว่าจะไม่ก่อเหตุร้า ยหรือก่อให้เกิดภัยอันตรายแก่ผู ้อื่น
(๘) ไม่เสพสุราหรือยาเสพติดให้โทษ
(๙ ) ไม่ประพฤติตนหรือกระทำการอย่างห นึ่งอย่างใดอันอาจนำไปสู่การกระ ทำความผิดอีก
ข้อ ๓ ในระหว่างรอการกำหนดโทษ นอกจากพนักงานคุมประพฤติแล้ว ศาลอาจแต่งตั้งบุคคลในครอบครัวข องจำเลยหรือบุคคลที่ศาลเห็นสมคว รซึ่งยอมรับ ดูแลจำเลยเป็นผู้ควบคุมให้คำแนะ นำช่วยเหลือ หรือตักเตือนจำเลยด้วยก็ได้
ข้อ ๔ ถ้าภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามข้อ ๑ จำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศ าลได้วางไว้หรือกระทำความผิดขึ้ นอีกแต่ศาลมิ ได้พิพากษาให้จำคุกในคดีหลัง ศาลอาจดำเนินการอย่างหนึ่งอย่าง ใดดังต่อไปนี้ก็ได้(๑) ตักเตือนจำเลย(๒) เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมเงื่อน ไขเพื่อคุมความประพฤติ(๓) กำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้(๔) กำหนดโทษแล้วลงโทษซึ่งรอไว้นั้น
ข้อ ๕ ในกรณีที่จำเลยได้กระทำความผิดอ ีกภายในเวลาที่รอการกำหนดโทษไว้ และศาลใน คดีหลังจะพิพากษาลงโทษจำคุกจำเล ย ให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังกำหนดโท ษที่รอไว้ตามพฤติการณ์แห่งคดีเท ่าที่ปรากฏใน สำนวนคดีก่อน เพื่อบวกเข้ากับโทษในคดีหลัง
หากสำนวนคดีก่อนอยู่ที่ศาลอื่น ให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังยืมสำนว นจากศาลนั้นหรือจะขอให้ศาลนั้นส ่งเอกสารเท่า ที่จำเป็นมาทางโทรสาร ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นเ พื่อใช้ประกอบการพิจารณากำหนดโท ษก็ได้
ข้อ ๖ ในกรณีที่ต้องมีวิธีการใดในทางธ ุรการเพื่อให้การปฏิบัติตามคำแน ะนำนี้เป็นไป ด้วยความเรียบร้อย ให้เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรร มเป็นผู้กำหนดแนวทางปฏิบัติหรือ ดำเนินการใน เรื่องนั้น ได้ตามความจำเป็น
เครดิต มติชนออนไลน์ วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 20:30:23 น
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญ
ข้อ ๑ ภายใต้บังคับมาตรา ๕๖ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ในคดีความผิดซึ่งตามบัญชี มาตรฐานการลงโทษของศาลกำหนดให้ร
(๑) การกระทำความผิดของจำเลยมีสาเหต
(๒)
(๓) ผู้เสียหายกับจำเลยมีความสัมพัน
(๔) เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมา
(๕) พฤติการณ์อื่นในทำนองเดียวกับ (๑) ถึง (๔) ซึ่งศาลเห็นว่าจำเลยไม่ควรมีประ
ศาลพึงพิจารณาใช้วิธีการรอการกำ
ข้อ ๒ นอกเหนือจากเงื่อนไขเพื่อคุมควา
(๑) ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เส
(๒) ให้เข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ หรือบุคคลซึ่งทำหน้าที่ให้คำปรึ
(๓) ให้ปฏิบัติศาสนกิจตามที่ศาลเห็น
(๔) ให้บริจาคเงินเพื่อการกุศลหรือส
(๕) ห้ามออกนอกสถานที่อยู่อาศัยในระ
(๖) ห้ามเข้าไปในสถานที่ที่ศาลกำหนด
(๘) ไม่เสพสุราหรือยาเสพติดให้โทษ
(๙
ข้อ ๓ ในระหว่างรอการกำหนดโทษ นอกจากพนักงานคุมประพฤติแล้ว ศาลอาจแต่งตั้งบุคคลในครอบครัวข
ข้อ ๔ ถ้าภายในเวลาที่ศาลกำหนดตามข้อ ๑ จำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศ
ข้อ ๕ ในกรณีที่จำเลยได้กระทำความผิดอ
หากสำนวนคดีก่อนอยู่ที่ศาลอื่น ให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังยืมสำนว
ข้อ ๖ ในกรณีที่ต้องมีวิธีการใดในทางธ
เครดิต มติชนออนไลน์ วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 20:30:23 น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น