1. เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชามีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัย ผู้บังคับบัญชาทราบว่าผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดวินัยเช่นนี้ผู้บังคับบัญชาจะมีอำนาจดำเนินการทางวินัยได้หรือไม่ หากว่าผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชามีความขัดแย้งกันจนถึงขั้นแจ้งความร้องทุกข์กันและกันต่อพนักงานสอบสวนในข้อหาหมิ่นประมาทและทำเอกสารเท็จ
2. ประเด็นนี้เกิดเรื่องเมื่อนางสาว ก. ผู้ใต้บังคับบัญชาทำการแก้ไขปลอมแปลงผลการเรียนของนักศึกษาคนหนึ่งเพื่อให้ มีผลเป็นการจบการศึกษาและรับรองภาพถ่ายระเบียนแสดงผลการเรียน (Transcript) เป็นเท็จต่อมามีบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนผู้บังคับบัญชาทำให้ผู้บังคับบัญชาเข้าใจว่านางสาวก.เป็นผู้ทำ และมีการแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทและข้อหาทำเอกสารเท็จด้วย
3. หลังจากนั้น ผู้บังคับบัญชาได้อาศัยอำนาจของตนแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างไม่ร้ายแรงแก่นางสาว ก. ในกรณีดังกล่าวจนที่สุดผู้บังคับบัญชาได้สั่งลงโทษตัดเงินเดือน 5% จำนวน 1 เดือน นางสาวก.อุทธรณ์คำสั่งลงโทษ ปรากฏว่า ยกอุทธรณ์
4. นางสาวก. จึงมาฟ้องเป็นคดีปกครองว่าผู้ถูกฟ้องใช้อำนาจโดยมิชอบกลั่นแกล้งผู้ฟ้องคดี เพราะว่ามีเหตุโกรธเคืองกันดังกล่าว ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งลงโทษและมติที่ยกอุทธรณ์รวมทั้งให้คืนเงินเดือนที่ถูกตัดไปด้วย
5. ที่สุดศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยความโดยสรุปว่า เมื่อปรากฏว่าก่อนที่จะมีการดำเนินการทางวินัย คู่กรณีทั้งสองมีปัญหาความขัดแย้งกันจนถึงขั้นมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าว โทษต่อพนักงานสอบสวน การที่ผู้บังคับบัญชานำคดีวินัยมาดำเนินการหลังจากนั้น ทำให้เห็นว่า ผู้บังคับบัญชาใช้อำนาจโดยโทสะจริตกลั่นแกล้ง ขาดคุณธรรมและเมตตาธรรมกรณีถือว่ามีสภาพร้ายแรงอาจทำให้การดำเนินการทาง วินัยอันเป็นการพิจารณาทางปกครองไม่เป็นกลางได้ ผู้บังคับบัญชาจึงไม่อาจพิจารณาทางปกครองในเรื่องนี้ได้ตามมาตรา 16 วรรคหนึ่ง แห่งพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ดังนั้นการกระทำของผู้บังคับบัญชาจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและมติที่ยกอุทธรณ์ก็ ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.146/2554)
6. สรุปสุดท้าย คือต้องยกเลิกคำสั่งลงโทษและมติยกอุทธรณ์ ย้อนกลับให้ไปดำเนินการทางวินัยใหม่ โดยผู้บังคับบัญชาระดับเหนือขึ้นไป มิใช่ทำอะไรไม่ได้นะครับ
เครดิต :ราชการแนวหน้า ,หนังสือพิมพ์แนวหน้า, อาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2556 02:00:00 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น