ผู้ฟ้องคดีและญาติๆ ขุดที่ดินของตนเชื่อมกับคลองและ
ผู้ถูกฟ้องคดี (เทศบาลตาบล) โต้แย้งว่าผู้ฟ้องคดีสามารถนาเร ือสัญจรไป - มา และใช้ประโยชน์ เข้า - ออกในพื้นที่ได้ตามปกติโดยใช้วิ ธีเดินทางมาที่ถนนสาธารณะแล้วนา สัมภาระลงเรือเดินทางเข้าไปในที ่ดินของตนและการก่อสร้างสะพานเป ็นความประสงค์ของชุมชนในเขตพื้น ที่และเป็นการจัดบริการสาธารณะใ ห้แก่ประชาชน ในท้องถิ่นตามภารกิจและหน้าที่ข องเทศบาล
การทำหน้าที่ของเทศบาลถือว่าได้ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎห มายกาหนดไว้หรือไม่ ? และเป็นกรณีที่ถือว่าเทศบาลได้ป ฏิบัติหน้าที่จนก่อให้เกิดภาระก ับผู้ฟ้องคดีเกินสมควรหรือไม่ ?
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า การดำเนินการสร้างถนนของผู้ถูกฟ ้องคดี เป็นการดำเนินการตามอานาจหน้าที่ที่มาตรา 50 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 กาหนดไว้ (... เทศบาลตาบล มีหน้าที่ต้องทาในเขตเทศบาลดังต ่อไปนี้ (2) ให้มีและบารุงทางบกและทางน้า วรรคสอง บัญญัติว่า การปฏิบัติงาน ตามอานาจหน้าที่ของเทศบาลต้องเป ็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยวิธีการบริหารกิจการบ้านเมือ งที่ดี และให้คานึงถึงการมีส่วนร่วมของ ประชาชนในการจัดทาแผนพัฒนาเทศบา ล การจัดทางบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบการประเมินผล การปฏิบัติงานและการเปิดเผยข้อม ูลข่าวสาร ...) และการสร้างถนนทดแทนสะพานไม้ ที่มีอยู่เดิมก่อให้เกิดประโยชน ์แก่ประชาชนที่อาศัยสัญจรไปมาใน เส้นทางดังกล่าวสามารถใช้เส้นทา งได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ดี แม้เทศบาลมีอานาจในการปฏิบัติหน ้าที่ตามที่กฎหมายกาหนด แต่การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวก็ ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย และเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของปร ะชาชนเป็นหลัก ซึ่งการที่จะ ปฏิบัติราชการภายใต้การบริหารกิ จการบ้านเมืองที่ดีได้นั้น จะต้องพิจารณาว่ามาตรการหรือวิธ ีการที่เลือกใช้เป็นไปตามเจตนาร มณ์ของกฎหมาย ในการใช้อานาจให้สาเร็จลุล่วงได ้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ มาตรการหรือวิธีการดังกล่าวก่อใ ห้เกิดความเดือดร้อนเสียหายหรือ ก่อให้เกิดภาระแก่ราษฎรน้อยที่ส ุดหรือไม่ และหากดาเนินการตามมาตรการ หรือวิธีการดังกล่าวไปแล้วจะก่อ ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมมากน้ อยเพียงใด เมื่อเทียบกับความเสียหายที่จะเ กิดขึ้นแก่ราษฎรและสังคมโดยส่วน รวม การที่ผู้ถูกฟ้องคดีวางท่อลอดคู ่และฝังกลบซอยเพื่อทาเป็นถนนมีผ ลทาให้ปิดทางเข้า - ออกคลองซอยในบริเวณที่ดินที่ผู้ ฟ้องคดีอยู่อาศัยและประกอบสัมมา อาชีพ ทาให้การสัญจรเข้า - ออกจากที่ดินของผู้ฟ้องคดีไปยัง คลองมหาสวัสดิ์เพื่อดาเนินชีวิต และประกอบสัมมาอาชีพไม่สามารถกร ะทาได้ตามปกติ อีกทั้ง ในเส้นทางเดียวกันกับถนนพิพาทบร ิเวณคลอง ซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การบร ิหารส่วนตาบลใกล้เคียง ได้ใช้บล็อกคอนเวิร์สแทน ท่อคอนกรีตทรงกลมทาให้ถนนในบริเ วณดังกล่าวอยู่ในสภาพที่เรือสาม ารถสัญจรเข้า - ออกสู่คลองมหาสวัสดิ์ได้ ซึ่งการปฏิบัติงานตามอานาจหน้าท ี่ เพื่อจัดให้มีหรือบำรุงทางบกและ ทางน้าตามมาตรา 50 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ผู้ถูกฟ้องคดีสามารถใช้ดุลพินิจ ในการพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสม ว่า หากไม่ดำเนินการฝังท่อลอดคู่และ ฝังกลบคลองซอยทาเป็นถนน ยังมีวิธีการจัดทาทางหรือถนนวิธ ีอื่นที่จะยังผลให้เกิดประโยชน์ แก่ราษฎรที่มีความจาเป็นต้องสัญ จรทางบกและทางน้าอย่างเท่าเทียม กันหรือไม่ แต่ในกรณีนี้ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ ้องคดีได้ใช้ดุลพินิจเพื่อพิจาร ณาหาแนวทางที่เหมาะสม แก่การจัดทาบริการสาธารณะให้บรร ลุวัตถุประสงค์และก่อให้เกิดควา มเดือดร้อนเสียหายหรือภาระแก่รา ษฎรน้อยที่สุด แต่อย่างใด จึงถือได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ข องผู้ถูกฟ้องคดีก่อให้เกิดภาระแ ก่ผู้ฟ้องคดีเกินสมควร เพราะเป็นการปิดกั้นเส้นทางสัญจ รโดยปกติของผู้ฟ้องคดีและบริวาร ดังนั้น แม้การสร้างทางจะก่อให้เกิดประโ ยชน์สุขแก่ประชาชนโดยรวม และเป็นการดาเนินการ ตามอานาจหน้าที่ที่กาหนดไว้ในมา ตรา 50 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 แต่เมื่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู ้ถูกฟ้องคดีได้ก่อให้เกิดผลกระท บแก่ผู้ฟ้องคดีอย่างไม่เป็นธรรม จึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่เหม าะสม และไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ กฎหมายอันเป็นการกระทำละเมิดต่อ ผู้ฟ้องคดี
จึงพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีดำเน ินการให้ผู้ฟ้องคดีสามารถใช้เรื อสัญจรเข้า - ออกจากที่ดินของตนผ่านคลองซอยออ กสู่คลองมหาสวัสดิ์ได้ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คาพิพากษาถึงที่สุด (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 162/2555)
คดีนี้เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัต ิราชการที่ดีของเจ้าหน้าที่ของร ัฐว่าในการดำเนินการตามอำนาจหน้ าที่แม้กฎหมายจะให้มีอำนาจดำเนิ นการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ก็มิใช ่ว่าจะใช้อำนาจตัดสินใจดำเนินกา รได้ตามอำเภอใจ แต่จะต้องเลือกดำเนินการในแนวทา งที่เหมาะสมทั้งประโยชน์สาธารณะ และความเดือดร้อนเสียหาย แก่เอกชน โดยต้องเกิดประโยชน์กับสาธารณะม ากและก่อให้เกิดความเดือดร้อนหร ือเสียหายหรือภาระกับราษฎร น้อยที่สุดเท่านั้น ครับ !
ที่มา : นายปกครอง หนังสือพิมพ์บ้านเมือง คอลัมน์คดีปกครอง ฉบับวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น