2 ก.ค. 2562

ฟ้องละเลยต่อหน้าที่ ... ต้อง “ร้องเรียน” ก่อนฟ้องคดีปกครอง ?

ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการที่ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควรนั้น สามารถยื่นฟ้องเป็นคดีต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อเยียวยาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเสียหายที่เกิดขึ้นได้
แต่การฟ้องคดีดังกล่าวมีประเด็นที่น่าสนใจว่า ผู้ฟ้องคดีต้องยื่นคำขอหรือมีหนังสือร้องเรียนต่อฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนฟ้องคดี หรือไม่
คดีปกครองที่นำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ไม่ดำเนินการควบคุมการประกอบกิจการค้าของเก่า ส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ประชาชนในชุมชน
ผู้ฟ้องคดีเป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันกับที่ตั้งสถานประกอบกิจการค้าของเก่าเห็นว่า ตนได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการละเลยต่อหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ (กรุงเทพมหานคร ที่ 1 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 2 กระทรวงสาธารณสุข ที่ 3 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ 4) ที่ไม่ดำเนินการควบคุม ตรวจสอบการประกอบกิจการค้าของเก่า รวมทั้งไม่แก้ไขปัญหาทางด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนตามที่กฎหมายฉบับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้กำหนดไว้ จนก่อให้เกิดผลกระทบด้านต่าง ๆ เช่น ปัญหาการส่งเสียงรบกวน การเผาพลาสติกและสายไฟจนเกิดกลิ่นเหม็น และการตัดโลหะโดยใช้แก๊สทำให้เกิดเหตุระเบิดจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
จึงฟ้องคดีต่อศาลปกครองขอให้มีการจัดทำแผนหรือมาตรการการป้องกันสาธารณภัยและแผนฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติภายหลังเกิดเหตุ และให้จัดระเบียบการขายทอดตลาดหรือรับซื้อของเก่าเป็นโซนตามที่กฎหมายกำหนดพร้อมทั้งตรวจสอบสถานที่รับซื้อของเก่าให้ถูกสุขลักษณะตามมาตรฐานทุกปี
โดยที่ผู้ฟ้องคดีไม่ได้มีหนังสือร้องเรียนต่อผู้ถูกฟ้ องคดีทั้งสี่ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนการฟ้องคดีแต่อย่างใด
คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาประเด็นการเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีโดยได้วินิจฉัยว่า ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการละเลยต่อหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ที่ไม่ดำเนินการควบคุมและตรวจสอบการประกอบกิจการค้าของเก่า รวมทั้งไม่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการดังกล่าวตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กรณีจึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
ผู้ฟ้องคดีซึ่งได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จึงชอบที่จะยื่นคำขอแสดงความประสงค์หรือมีหนังสือร้องเรียนต่อผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ แต่ก็ไม่ปรากฏว่า ผู้ฟ้องคดีได้ดำเนินการดังกล่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ การจะดำเนินการตามคำขอโดยกำหนดมาตรการหรือดำเนินการจัดระเบียบสำหรับผู้ประกอบกิจการค้าของเก่าอย่างไรนั้น เป็นอำนาจดุลพินิจของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ ศาลปกครองไม่อาจก้าวล่วงเข้าไปสั่งให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ คำขอของผู้ฟ้องคดีจึงเป็นคำขอที่ศาลไม่อาจกำหนดคำบังคับตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
ดังนั้น การที่ผู้ฟ้องคดีไม่ได้ยื่นคำขอหรือทำหนังสือร้องเรียนก่อนการฟ้องคดี และการมีคำขอประกอบคำฟ้องในลักษณะที่เป็นอำนาจดุลพินิจที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ต้องดำเนินการ จึงเป็นกรณีที่ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่ใช่ผู้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน (คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 602/2558)
คดีนี้เป็นตัวอย่างที่ดีเกี่ยวกับเงื่อนไขการฟ้องคดีปกครอง สำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้จากการละเลยต่อหน้าที่ของฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า
(1) หากการฟ้องคดีเพื่อให้ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ เป็นกรณีที่เกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ดังเช่นข้อเท็จจริงในคดีนี้แล้ว ก่อนการยื่นฟ้องคดีต้องมีการยื่นคำขอหรือมีหนังสือร้องเรียนต่อฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือเสียหายที่เกิดขึ้นก่อน เพื่อให้ฝ่ ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีโอกาสดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตามอำนาจหน้าที่ อันเป็นการดำเนินการที่เป็นสาระสำคัญก่อนฟ้ องคดีต่อศาลปกครอง
(2) การมีคำขอประกอบคำฟ้องนั้นจะต้องเป็นคำขอที่ศาลปกครองสามารถกำหนดคำบังคับได้ตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 หากคำขอใดเป็นคำขอที่ศาลปกครองไม่อาจกำหนดคำบังคับได้ เช่น การขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นอำนาจดุลพินิจของฝ่ายปกครองแล้ว กรณีจะส่งผลให้บุคคลดังกล่าวไม่ใช่ผู้มีสิทธิฟ้ องคดีต่อศาลปกครอง และศาลปกครองมีอำนาจไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ... ครับ !
เครดิต : นายปกครอง , หนังสือพิมพ์บ้านเมือง คอลัมน์คดีปกครอง ฉบับวันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2559

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ... จ่ายตามฐานะไม่ได้ !

คดีปกครองที่นำมาเล่าสู่กันฟังในฉบับนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยพิบัติจากฝนตกหนักและลมพัดแรงทำให้หลังคาบ้านเ...