6 ก.ค. 2559

“ใช้สิทธิตามกฎหมาย” ไม่ใช่ความประพฤติเสื่อมเสีย ... ต้องพ้นจากตำแหน่ง !


                   
 คดีปกครองฉบับนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีมติให้สมาชิกของสภาพ้นจาก ตำแหน่ง เนื่องจากเป็นผู้รับมอบอำนาจให้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดี เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์ และเป็นผู้จัดรายการวิทยุให้ร้ายป้ายสีการบริหารงาน

                     เหตุดังกล่าวถือเป็นความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย หรือก่อความไม่สงบเรียบร้อย หรือกระทำการอันเสื่อมเสียประโยชน์ สร้างความแตกแยกให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จะทำให้สมาชิกภาพของ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องพ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 11 วรรคหนึ่ง (7) แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 หรือไม่

                     ข้อเท็จจริงในคดีนี้ คือ สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ผู้ถูกฟ้องคดี) ได้มีมติเห็นชอบให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งจำนวน 18 เสียง ไม่เห็นชอบจำนวน 6 เสียง เนื่องจาก

                     (1) กรณีผู้ฟ้องคดีเป็นผู้รับมอบอำนาจจากอดีตนายกอบจ. (นาย น.) ให้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนาย ส. (นายก อบจ.) กับนาย ก. ผู้สื่อข่าว เป็นจำเลยในคดีอาญาฐานหมิ่นประมาท

                     (2) กรณีผู้ฟ้องคดีแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามว่า ถูกข่มขู่คุกคามจากการมีรถยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียนคอยติดตาม

                     (3) กรณีที่ผู้ฟ้องคดีจัดรายการวิทยุแล้วพูดจาใส่ร้ายป้ายสีการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดว่ามีความไม่โปร่งใส อนุมัติงบประมาณอัปยศ ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า การใช้ดุลพินิจของผู้ถูกฟ้องคดีไม่สุจริต มติไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการกระทำของตนถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการขององค์การบริหารส่วนจังหวัด จึงฟ้องขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนมติที่ให้พ้นจากตำแหน่ง

                     มติของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 11 วรรคหนึ่ง (7)แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพียงใด ?

                     ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยเกี่ยวกับความประพฤติของผู้ฟ้องคดี ข้อกล่าวหาที่ 1 กรณีผู้ฟ้องคดีเป็นผู้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีฟ้องร้องนาย ส. กับนาย ก. เป็นจำเลยในคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทว่าเป็นเรื่องการใช้สิทธิในกระบวนการ ยุติธรรมในฐานะที่ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย ซึ่งการรับมอบอำนาจดังกล่าวมีกฎหมายรับรองสิทธิไว้ชัดเจนและมิได้ขัดต่อ กฎหมายแต่อย่างใด ข้อกล่าวหาที่ 2 กรณีผู้ฟ้องคดีไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามเพราะถูกข่มขู่คุกคามว่า การแจ้งความร้องทุกข์เป็นการดำเนินการในฐานะที่ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้เสียหายเอง ซึ่งเป็นสิทธิที่บุคคลทั่วไปพึงได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมาย และข้อกล่าวหาที่ 3 กรณีพูดจาใส่ร้ายป้ายสีการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดทางรายการ วิทยุว่า เป็นการจัดรายการวิทยุเพื่อแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงาน ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งสามารถกระทำได้ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย หากการแสดงความคิดเห็นหรือการวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวไปก่อให้เกิดความเสีย หายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว ผู้ฟ้องคดีย่อมต้องรับผิดเป็นการเฉพาะตัวตามกฎหมายนั้น ๆ อยู่แล้ว จึงยังฟังไม่ได้ว่า ผู้ฟ้องคดีมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย หรือก่อความไม่สงบเรียบร้อยแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือกระทำการอันเสื่อมเสียประโยชน์ของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตามมาตรา 11 วรรคหนึ่ง (7) แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 240/2558)

                     คดีนี้นอกจากศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยเกี่ยวกับความประพฤติของสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัด อันเป็นเหตุให้ถูกกล่าวหาให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวข้างต้นแล้ว ศาลปกครองสูงสุดยังได้วินิจฉัยเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของวิธีการอันเป็น สาระสำคัญที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งคดีนี้ได้มีการแจ้งญัตติการประชุมให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ โดยการฝากส่งไว้กับสมาชิกสภาฯ คนอื่นและเป็นการแจ้งญัตติให้ทราบล่วงหน้าน้อยกว่าสองวันก่อนวันประชุม กรณีดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ผู้สนใจสามารถติดตามอ่านรายละเอียดได้ในคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดข้างต้น ครับ !


                     เครดิต : นายปกครอง (หนังสือพิมพ์บ้านเมือง คอลัมน์คดีปกครอง ฉบับวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2558)


                     เครดิตภาพ : http://www.nongkhai-pao.org/catalog...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ... จ่ายตามฐานะไม่ได้ !

คดีปกครองที่นำมาเล่าสู่กันฟังในฉบับนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยพิบัติจากฝนตกหนักและลมพัดแรงทำให้หลังคาบ้านเ...