1 ก.ค. 2559

ไม่อนุมัติให้เข้าอบรม ... ระบุเหตุผลในคำสั่งด้วยครับ !


             
          คดีปกครองที่นำมาเล่าสู่กันฟังฉบับนี้ ถือเป็นตัวอย่างและบรรทัดฐานการปฏิบัติราชการที่ดีเกี่ยวกับการจัดให้มี เหตุผลในคำสั่งทางปกครอง ซึ่งตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 กำหนดหลักการสำคัญไว้ว่า “คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือ และการยืนยันคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย และเหตุผลนั้นอย่างน้อยต้องประกอบด้วยข้อเท็จจริงอันเป็นสารระสำคัญ ข้อกฎหมายที่อ้างอิง และข้อพิจารณาและข้อสนับสนุนในการใช้ดุลพินิจ” และมาตรา 41 (2) กำหนดว่า คำสั่งทางปกครองที่ออกโดยไม่ได้ระบุเหตุผล ไม่เป็นเหตุให้คำสั่งทางปกครองนั้นไม่สมบูรณ์ หากจัดให้มีเหตุผลในภายหลัง 



               เหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ เกิดจากอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในคณะบริหารธุรกิจ ภาควิชาการเงิน(ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นขออนุมัติใช้งบพัฒนาอาจารย์ เพื่อเข้ารับการอบรม เพื่อเป็นค่าลงทะเบียนในการเข้ารับการอบรมหลักสูตรกฎหมายปกครองเกี่ยวกับการ บริหารงานบุคคล ความรับผิดทางละเมิดและเกี่ยวกับการพัสดุ โดยขอยืมเงินทดรองจ่าย จำนวนเงิน 3,800 บาท แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) มีคำสั่งไม่อนุมัติตามที่ขอ 



               ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า คำสั่งไม่อนุมัติดังกล่าว ไม่ได้ระบุเหตุผลไว้ในคำสั่ง ทั้งเหตุผลที่เป็นข้อกฎหมายที่อ้างอิงและข้อพิจารณาในการใช้ดุลพินิจตาม มาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 จึงอุทธรณ์คำสั่ง และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้พิจารณาและมีความเห็นระบุไว้ในหนังสืออุทธรณ์ว่า “เนื่องจากยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าภาควิชา จึงยืนยันตามเดิม” 


               ผู้ฟ้องคดีจึงฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องทั้งสองที่ไม่ อนุมัติให้ผู้ฟ้องคดีเข้ารับการฝึกอบรม และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (มหาวิทยาลัย)จ่ายค่าสินไหมทดแทนจากการกระทำละเมิดของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 


               คำสั่งไม่อนุมัติให้ผู้ฟ้องคดีใช้งบพัฒนาอาจารย์ เพื่อเข้ารับการอบรม เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ? โดยประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องคำสั่งทางปกครองที่ต้องระบุเหตุผลไว้ในคำสั่งหรือในเอกสารแนบท้ายคำ สั่ง ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2543 กำหนดว่า “คำสั่งทางปกครองที่ทำเป็นหนังสือ และการยืนยันคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือในกรณีดังต่อไปนี้ เป็นคำสั่งทางปกครองที่ต้องระบุเหตุผลไว้ในคำสั่งหรือเอกสารแนบท้ายคำสั่ง(1) คำสั่งปฏิเสธการก่อตั้งสิทธิของคู่กรณี เช่น การไม่รับคำขอ ไม่อนุญาต ไม่อนุมัติ ไม่รับรอง ไม่รับอุทธรณ์ หรือไม่รับจดทะเบียน” 



               ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า คำสั่งไม่อนุมัติให้ใช้งบดังกล่าว เป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และเป็นคำสั่งปฏิเสธการก่อตั้งสิทธิของผู้ฟ้องคดีที่กฎหมายบังคับให้ต้อง ระบุเหตุผลไว้ในคำสั่งตาม (1) ของประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงไม่อาจจัดให้มีเหตุผลในภายหลังได้ การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้พิจารณาอุทธรณ์แล้วมีคำสั่งยืนตามคำสั่งเดิม โดยเห็นว่า เนื่องจากหนังสือของผู้ฟ้องคดียังไม่ได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าภาควิชาการ เงินนั้น ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นการให้เหตุผลประกอบคำสั่งทางปกครองที่ได้กระทำขึ้นใน ภายหลังตามมาตรา 41 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 



               ดังนั้น คำสั่งที่ไม่อนุมัติให้ใช้งบพัฒนาอาจารย์ จึงเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากเป็นการออกคำสั่งที่ไม่ ถูกต้องตามรูปแบบ ขั้นตอนและวิธีการอันเป็ นสาระสำคัญที่กำหนดไว้สำหรับการกระทำนั้น และผู้ฟ้องคดีไม่ได้สอนวิชาทางการเงิน หรือวิชาเกี่ยวกับกฎหมายความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ที่ประสงค์จะเข้า อบรม ดังนั้น คำสั่งไม่อนุมัติให้ผู้ฟ้ องคดีใช้งบพัฒนาอาจารย์ จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายและกระทบสิทธิของผู้ฟ้ องคดี ไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้ องคดี (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 47/2558) 



               คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดได้วางหลักการสำคัญเกี่ยวกับการจัดให้มีเหตุผลในคำ สั่งทางปกครองว่า เป็นรูปแบบ ขั้นตอนและวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการออกคำสั่งทาง ปกครองที่เป็นหนังสือ รวมถึงการยืนยันคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือ ซึ่งหากเป็นคำสั่งทางปกครองที่มีลักษณะตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้างต้น ฝ่ายปกครองย่อมมีหน้าที่ต้องจัดให้มีเหตุผลไว้ในคำสั่ง จะจัดให้มีเหตุผลในภายหลังไม่ได้ แต่หากเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง และไม่ได้จัดให้มีเหตุผลในขณะที่ออกคำสั่งทางปกครอง ฝ่ายปกครองสามารถจัดให้มีเหตุผลในภายหลังได้ แต่ต้องก่อนสิ้นสุดกระบวนการพิจารณาอุทธรณ์หรือก่อนมีการนำคำสั่งทางปกครอง ไปสู่การพิจารณาของผู้มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยความถูกต้องของคำสั่ง (ศาลปกครอง) และหากฝ่ายปกครองไม่จัดให้มีเหตุผลตามรูปแบบ ขั้นตอนและวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กฎหมายกำหนดไว้เลย ย่อมถือเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ครับ ! 



               เครดิต : นายปกครอง ,หนังสือพิมพ์บ้านเมือง คอลัมน์คดีปกครอง ฉบับวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2558

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ... จ่ายตามฐานะไม่ได้ !

คดีปกครองที่นำมาเล่าสู่กันฟังในฉบับนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยพิบัติจากฝนตกหนักและลมพัดแรงทำให้หลังคาบ้านเ...